เจาะลึกการทำงานของ Heat Exchanger, Coil และ Condenser อุปกรณ์สำคัญในระบบทำความเย็นและอุตสาหกรรม
- mkt than
- 25 ส.ค.
- ยาว 2 นาที

ในยุคที่เทคโนโลยีการควบคุมอุณหภูมิและระบบ HVAC (Heating, Ventilation, and Air Conditioning) เติบโตอย่างต่อเนื่อง อุปกรณ์อย่าง Heat Exchanger (เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อน), Coil (คอยล์) และ Condenser (คอนเดนเซอร์) กลายเป็นหัวใจสำคัญของระบบ ไม่ว่าจะในโรงงานอุตสาหกรรม ระบบทำความเย็นเชิงพาณิชย์ หรือระบบปรับอากาศในอาคารทั่วไป
Heat Exchanger คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ
Heat Exchanger คืออุปกรณ์ที่ถ่ายเทพลังงานความร้อนระหว่างของไหลสองชนิด โดยไม่ให้ของไหลสัมผัสกันโดยตรง ใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน เช่น:
ระบบทำความเย็น, ปรับอากาศ และรถยนต์
โรงงานพลังงาน
อุตสาหกรรมเคมีและปิโตรเคมี
Heat Exchanger มีกี่แบบ ?
Shell and Tube heat exchangers
ใช้ท่อจำนวนมากภายในเปลือกถัง ให้ของไหลสองฝั่งไหลสวนหรือขนานกัน เหมาะกับงานอุตสาหกรรมหนัก

Plate heat exchangers
ใช้แผ่นโลหะถ่ายเทความร้อนโดยตรง พื้นที่สัมผัสมาก ทำให้ถ่ายเทความร้อนได้ดี เหมาะกับอุตสาหกรรมอาหาร ระบบพาสเจอร์ไรซ์ และ UHT

Fin & Tube Heat Exchanger
เป็นเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนที่ใช้ท่อทองแดงหรืออลูมิเนียมพันครีบฟินโลหะรอบๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัสกับอากาศ นิยมใช้ในเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และระบบทำความเย็นเชิงพาณิชย์ Coil (คอยล์) ที่เราเห็นในแอร์หรือตู้แช่ก็คือรูปแบบหนึ่งของ Fin & Tube Heat Exchanger นั่นเอง โดยมีทั้งคอยล์เย็น (Evaporator Coil) และคอยล์ร้อน (Condenser Coil) ที่ทำหน้าที่แลกเปลี่ยนความร้อนกับอากาศ
คอยล์คืออะไร?
Coil (คอยล์) ส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนความร้อน
คอยล์ (Coil) มีหน้าที่หลักคือ แลกเปลี่ยนความร้อน เพื่อให้อากาศในห้องเย็นลง โดยในเครื่องปรับอากาศ แล้วคอยล์(Coil) มีกี่ประเภท? โดยคอยล์มี 3 ชนิด ซึ่งทำหน้าที่ต่างกัน ได้แก่
1. คอยล์เย็น (Evaporator Coil)

หน้าที่ของคอยล์เย็น :
ดูดซับความร้อนจากอากาศผ่านสารทำความเย็นที่ระเหยในคอยล์ ทำให้อากาศเย็นลง
หลักการทำงานของคอยล์เย็น :
น้ำยาแอร์ที่อยู่ในสถานะของเหลวที่ความดันต่ำ จะไหลเข้ามาในคอยล์เย็น
เมื่อไหลผ่านท่อคอยล์ จะดูดซับความร้อนจากอากาศที่ผ่านฟิน (Fin)
ทำให้น้ำยาแอร์ระเหยเป็นไอ (Evaporation)
ในระหว่างนั้น อากาศที่สูญเสียความร้อนจะกลายเป็นลมเย็น เป่าเข้าสู่ห้อง
โครงสร้างของคอยล์เย็น :
ทำจากท่อทองแดงหรืออลูมิเนียม มีแผ่นฟิน ช่วยเพิ่มพื้นที่แลกเปลี่ยน
มีพัดลมเป่าลมผ่านฟิน เพื่อช่วยในการถ่ายเทความร้อน
คอยล์เย็นติดตั้งที่ไหน?
ติดตั้งภายในตัวเครื่องแอร์ฝั่งที่อยู่ในห้อง (Indoor Unit)
คอยล์เย็นใช้ในระบบใด?
แอร์บ้านทั่วไป, แอร์แบบแยกส่วน (Split type), แพ็กเกจยูนิต, เครื่องฟอกอากาศที่มีระบบทำความเย็น,ตู้แช่,ห้องเย็น, ฯลฯ
2. คอยล์ร้อน (Condenser Coil)

หน้าที่ของคอยล์ร้อน :
ระบายความร้อนออกจากสารทำความเย็นที่อยู่ในสถานะไอ
เปลี่ยนสถานะไอน้ำยาแอร์ให้กลับเป็นของเหลวอีกครั้ง (Condensation)
หลักการทำงานของคอยล์ร้อน :
ไอน้ำยาแอร์ที่มาจากคอยล์เย็นจะถูกอัดให้มีแรงดันสูงโดยคอมเพรสเซอร์
แล้วไหลเข้าคอยล์ร้อน ซึ่งจะถ่ายเทความร้อนออกสู่อากาศภายนอก
ไอน้ำยาแอร์จะเย็นตัวลงและควบแน่นกลับเป็นของเหลว
ของเหลวนั้นจะไหลกลับไปยังคอยล์เย็นเพื่อวนรอบใหม่
โครงสร้างของคอยล์ร้อน :
ท่อทองแดงหรืออลูมิเนียมพันกับฟินเช่นเดียวกับคอยล์เย็น
มีพัดลมช่วยระบายความร้อน (บางกรณีใช้พัดลมขนาดใหญ่)
คอยล์ร้อนติดตั้งที่ไหน?
ภายนอกอาคาร หรือบริเวณที่มีการระบายอากาศได้ดี
ของคอยล์ร้อนใช้ในระบบใด?
แอร์บ้านทั่วไป, ระบบ VRF, ระบบ HVAC อุตสาหกรรม, ระบบทำความเย็น
3. คอยล์น้ำ (Water Coil หรือ Hydronic Coil)

หน้าที่ของคอยล์น้ำ :
ใช้น้ำเย็น (หรือในบางระบบคือน้ำอุ่น) เป็นตัวแลกเปลี่ยนความร้อน
คล้ายกับคอยล์เย็น แต่ใช้น้ำเป็นตัวกลางแทนน้ำยาแอร์
ทำให้อากาศที่ผ่านคอยล์น้ำเย็นลงก่อนเป่าเข้าสู่พื้นที่ใช้งาน
หลักการทำงานของคอยล์น้ำ :
น้ำเย็นที่ผลิตจาก Chiller (เครื่องทำน้ำเย็น) จะถูกส่งผ่านท่อเข้าสู่คอยล์น้ำ
เมื่อพัดลมเป่าอากาศผ่านคอยล์น้ำ อากาศจะสูญเสียความร้อนให้กับน้ำเย็น
อากาศที่ผ่านจะเย็นลง และถูกส่งผ่านท่อลม (Duct) เข้าสู่พื้นที่ต่าง ๆ
ส่วนน้ำที่ดูดซับความร้อนแล้วจะไหลกลับไปที่ Chiller เพื่อทำให้เย็นอีกครั้ง
โครงสร้างของคอยล์น้ำ :
ท่อทองแดงหรือเหล็กกล้า ที่ภายในมีน้ำเย็นไหลผ่าน
มีฟินช่วยเพิ่มพื้นที่แลกเปลี่ยนความร้อน
ติดตั้งพร้อมพัดลมหรือใน AHU (Air Handling Unit)
คอยล์น้ำติดตั้งที่ไหน?
ภายในอาคาร (ในเพดาน, ห้อง AHU, หรือเครื่อง Fan Coil Unit)
ของคอยล์น้ำใช้ในระบบใด?
ระบบ Chiller (ระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ เช่น โรงแรม, โรงพยาบาล, ห้างสรรพสินค้า, อาคารสำนักงาน)
ระบบ HVAC เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม
Condenser (คอนเดนเซอร์) หัวใจของระบบระบายความร้อนที่ทุกระบบทำความเย็นต้องมี !
คอนเดนเซอร์ (Condenser) เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของระบบทำความเย็น ซึ่งมีหน้าที่หลักในการ ระบายความร้อน ออกจาก สารทำความเย็น (Refrigerant) โดยสารทำความเย็นที่อยู่ในสถานะไอความดันสูงจะถูกทำให้เย็นลงจนกลั่นตัวกลายเป็นของเหลว ก่อนที่จะส่งต่อเข้าสู่กระบวนการถัดไป เช่น ผ่านวาล์วลดแรงดันเข้าสู่ Evaporator Coil (คอยล์เย็น)
การระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพในคอนเดนเซอร์จะส่งผลต่อ ประสิทธิภาพโดยรวมของระบบทำความเย็น (Cooling Efficiency) รวมถึงอัตราการใช้พลังงานและอายุการใช้งานของเครื่องจักร
ประเภทของคอนเดนเซอร์ (Types of Condenser) คอนเดนเซอร์มีกี่ประเภท ในอุตสาหกรรมและระบบ HVAC มีการเลือกใช้คอนเดนเซอร์หลายประเภทตามลักษณะงาน ดังนี้
1. คอนเดนเซอร์แบบระบายอากาศ (Air-Cooled Condenser)
ใช้อากาศเป็นตัวกลางในการระบายความร้อน
เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ไม่มีระบบน้ำระบายความร้อน
นิยมใช้ใน คอนเดนเซอร์แอร์บ้าน, เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ และระบบห้องเย็นขนาดเล็ก
ติดตั้งง่าย ดูแลรักษาง่าย
2. คอนเดนเซอร์แบบน้ำ (Water-Cooled Condenser)
ใช้น้ำเย็นไหลผ่านท่อเพื่อดูดความร้อนออกจากสารทำความเย็น
ระบายความร้อนได้ดี เหมาะกับโรงงานอุตสาหกรรมหรือห้องเย็นขนาดใหญ่
ต้องใช้ระบบ Cooling Tower (หอหล่อเย็น) ร่วมด้วย
3. คอนเดนเซอร์แบบระเหย (Evaporative Condenser)
ผสมการทำงานระหว่างอากาศและน้ำ
มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนสูง ใช้น้ำในปริมาณน้อยกว่าแบบ Water-Cooled
นิยมใช้ในระบบ Cold Storage, Chiller Plant, หรือระบบอุตสาหกรรมหนัก
Condensing Unit (ชุดควบแน่น) คืออะไร?
Condensing Unit คือชุดอุปกรณ์ที่รวมคอนเดนเซอร์, คอมเพรสเซอร์, พัดลม และส่วนควบคุมไฟฟ้าไว้ในเครื่องเดียว โดยทั่วไปใช้ในระบบแอร์และห้องเย็นเชิงพาณิชย์ เหมาะสำหรับการติดตั้งภายนอกอาคาร จุดเด่นของ Condensing Unit (ชุดควบแน่น)
ติดตั้งง่าย
ควบคุมระบบความเย็นได้อย่างแม่นยำ
มีให้เลือกหลากหลายขนาดและประเภทตาม BTU และลักษณะงาน
คอนเดนเซอร์ HVAC กับการควบคุมอุณหภูมิภายในอาคาร
ในระบบ HVAC (Heating, Ventilation, and Air Conditioning) ซึ่งมักใช้ในอาคารขนาดใหญ่ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงแรม หรือโรงพยาบาล คอนเดนเซอร์มีหน้าที่หลักในการรักษาอุณหภูมิให้คงที่ ช่วยให้อากาศภายในสะอาด เย็นสบาย และลดความชื้นในอากาศ ระบบ HVAC ส่วนใหญ่ใช้ คอนเดนเซอร์แบบน้ำ หรือ Evaporative Condenser เพื่อประหยัดพลังงาน และรองรับการทำงานต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ทำไมต้องเลือกคอนเดนเซอร์คุณภาพสูง? การเลือกใช้คอนเดนเซอร์คุณภาพสูง ส่งผลโดยตรงตามรายละเอียดดังนี้
อัตราการระบายความร้อน ยิ่งดี ระบบยิ่งทำงานเบา
ประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศ/ห้องเย็น ส่งผลต่อค่าไฟและประสิทธิภาพ
อายุการใช้งาน คอนเดนเซอร์ที่ทนทาน ลดความเสี่ยงจากการกัดกร่อนและตะกรัน
ความต่อเนื่องในการผลิตในระบบอุตสาหกรรม ป้องกันการล่มของระบบจากความร้อนสะสม
ไม่ว่าจะเป็น คอนเดนเซอร์แอร์, คอนเดนเซอร์ HVAC, หรือ Condensing Unit ในโรงงาน การเลือกคอนเดนเซอร์ให้เหมาะสมกับงาน และใช้ร่วมกับ Heat Exchanger และ Coil อย่างถูกต้อง จะช่วยให้ระบบทำความเย็นของคุณทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน และลดการซ่อมบำรุงในระยะยาว
หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านระบบระบายความร้อน ทีมงานจาก บริษัท ไทยออสนอร์ จำกัด พร้อมให้คำแนะนำและจัดจำหน่าย คอนเดนเซอร์หลากหลายรุ่น ครอบคลุมทุกการใช้งานทั้งเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม